วิธีแก้ปัญหา แก้มย้อย แก้มห้อย
แก้มย้อย แก้มห้อย เกิดจากสาเหตุใด
สาเหตุของปัญหาแก้มย้อย แก้มห้อย เกิดจากหลายสาเหตุครับ คนไข้หลายคนเข้าใจผิดว่าส่วนที่ห้อยลงมาคือก้อนไขมันที่ถ่วงใบหน้า จึงเข้ามาปรึกษาเพื่อฉีดสลายไขมัน แต่จริงๆ แล้วปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อย ยังมีสาเหตุอื่น
เช่น กล้ามเนื้อ อายุที่มากขึ้น กลไกการหย่อนคล้อยของใบหน้าเราทุกคนนั้นเกิดจากการยืดออกของอีลาสตินและคอลลาเจ รวมถึงกระดูกจะบางและยุบตัวลง เห็นร่องแก้ม ร่องใต้ตา ผิวหนังใบหน้าหย่อนคล้อย ตก หรือพับย่นลงมา
ดังนั้นวิธีการแก้ไข ในแต่ละปัญหา จึงต่างกันออกไปครับ แพทย์ที่มีความชำนาญในการปรับรูปหน้า จะสามารถประเมินปัญหา และแนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้ได้
3 วิธีแก้ปัญหา แก้มย้อย แก้มห้อย ยอดนิยม
1.Hifu เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับหน้าที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ใช้คลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง ถูกออกแบบมาให้สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นของผิว สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวได้โดยตรง
Hifu มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัวเสมือนกับการเย็บที่เนื้อ ซึ่งเป็นการดึงหน้า ช่วยให้ผิวดูยกกระชับ แก้ปัญหาแก้มย้อย แก้มห้อย และช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์มากขึ้น
ข้อดี คือ Hifu จะช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคตได้ด้วย หลังทำ Hifu ผลลัพธ์อยู่ได้ 6 เดือน และสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปี แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมครับ
2. ร้อยไหม เป็นการใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดลงในชั้นผิวหนัง หากร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินช่วยประคองผิว โดยจะมีจุดที่ดึงบริเวณแก้มส่วนล่างและจุดที่ยึดอยู่บริเวณขมับดึงเข้าหากันจึงสามารถดึงแก้มที่หย่อนขึ้นได้
ข้อดี คือ สามารถแก้ปัญหาแก้มย้อย แก้มห้อยได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่แก้มหย่อนมากๆ จะเห็นผลได้ชัดเจน หลังทำสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ตั้งแต่ 4 -24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้
ข้อควรระวัง คือ มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำ ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วันครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น